TIME TO AWAKEN YOUR ZIMBE SPIRIT Seiko Prospex ปลุกสปิริตของนักผจญภัยขึ้นมาอีกครั้ง กับนักเดินทางแห่งท้องทะเลอย่าง “ฉลามวาฬ” และเพื่อนผู้เริ่มต้นการผจญภัยในซีรีย์ยอดนิยมอย่างจิมเบ ด้วยจิตวิญญาณเดียวกันอีกครั้งกับ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” Seiko Prospex Brand Friend ในปี 2022 นับว่าเป็นการเดินทางกว่า 6 ปีแล้วที่แฟนๆ Seiko ได้รู้จักกับคอลเลคชั่น Zimbe (จิมเบ) นาฬิกาดำน้ำรุ่นยอดฮิตที่เริ่มเปิดตัวแคมเปญแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2016 ภายใต้คอนเซปต์ “Move your adventurous mind further” หรือการออกไปเดินทางผจญภัยเพื่อพบเจอกับประสบการณ์ใหม่ๆ เหมือนกับการเดินทางของเจ้าฉลามวาฬจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชื่อของ Seiko Prospex Zimbe เป็นที่รู้จักและติดอันดับนาฬิกาควรค่าแก่การสะสมทั้งไทยและต่างประเทศ ไม่แพ้รุ่นพี่ที่โด่งดังไปแล้วทั่วโลกอย่าง มอนสเตอร์ คอลเลคชั่นจิมเบนั้น ถูกหยิบยกขึ้นมารีวิวและกล่าวถึงกันอย่างมากมาย เนื่องจากจิมเบเป็นคอลเลกชั่นที่ผลิตแบบจำนวนจำกัด หรือเป็น Thailand Limited Edition ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อจำหน่ายสำหรับประเทศไทยเท่านั้น แต่ก็มีแฟนๆ จากต่างประเทศจำนวนมากที่ติดตามและเก็บสะสมเจ้าจิมเบนี้ไว้ในคอลเลคชั่นเช่นกัน Seiko Prospex Zimbe การเดินทางเพื่อช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและรณรงค์เพื่อลดขยะพลาสติกทางทะเลฉลามวาฬจะเดินทางไปที่ใดในโลกก็ตาม นั่นหมายความว่าพื้นที่นั้นจะต้องมีความอุดมสมบูรณ์และเต็มได้วยแหล่งอาหารของฉลามวาฬ ซึ่งทะเลหลายแห่งในประเทศไทยนั้นก็เป็นเหมือนจุดนัดพบกับฉลามวาฬในทุกๆ ปี แต่ความน่าตื่นเต้นของการค้นพบฉลามวาฬนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะในหมู่นักดำน้ำที่บางคนอาจพบเจอได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ดำน้ำ หรือแม้กระทั่งบางคนดำน้ำมากว่าหลายร้อยไดฟ์แล้ว ก็ยังไม่เคยได้พบฉลามวาฬเลย คนญี่ปุ่นเองก็มีความเชื่อว่าฉลามวาฬนั้นเป็นตัวแทนแห่งความโชคดี แต่อาจเป็นโชคดีของมนุษย์อย่างเดียว เพราะมนุษย์นั้นอาจทำให้ฉลามวาฬและผองเพื่อนเป็นผู้โชคร้ายอยู่ก็ได้ Plastic Ocean ปัจจุบันเหตุผลที่ทำให้พืชและสัตว์ทะเลล้มตายอันดับต้นๆ คือ “ขยะในท้องทะเล” ที่เกิดจากฝีมือมนุษย์โดยเฉพาะขยะพลาสติก ทั้งอวน แห ขวด ฝาพลาสติก ถุงพลาสติก แก้ว ช้อน ชาม ที่เพิ่มขึ้นจากอุตสาหกรรมและนักท่องเที่ยว Zimbe 16 และ Zimbe 17 จึงเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นหนึ่งในตัวแทนเชิงสัญลักษณ์ของการรณรงค์ที่อยากให้ผู้ที่รักทะเล ช่วยกันลดขยะพลาสติกในท้องทะเลไทย โดยคอลเลกชั่น Zimbe นี้เองก็คือต้นกำเนิด ของโปรเจกต์พิเศษเพื่อการฟื้นฟูและอนุรักษ์ท้องทะเลไทยที่ไซโก ประเทศไทย ได้จัดทำมากว่า 5 ปีแล้ว ภายใต้ชื่อโครงการ Seiko Save The Sea และเปลี่ยนมาเป็น Save The Ocean ในปัจจุบัน โดยไซโก ได้นำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายนาฬิกา Seiko Prospex Zimbe และ Seiko Prospex รุ่นอื่นๆ มาจัดทำโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลจากเว็บไซต์ Euronews Green ได้เผยแพร่ข้อมูลสถิติเมื่อปี 2564 ว่าประเทศไทยนั้นยังคงติดอันดับ 5 ใน 10 อันดับของประเทศที่มีขยะพลาสติกในทะเลราว 22.8 ล้าน กิโลกรัม ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อทะเล, สัตว์น้ำ และระบบนิเวศในทะเลรวมถึงเจ้าฉลามวาฬนี้ด้วย Prospex Zimbe Limited Edition รหัส SRPJ55K (No.16) สนนราคา 26,800 บาทจัดจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทย จำนวนจำกัดเพียง 1,000 เรือนและพร้อมวางจำหน่ายที่ ไซโก บูติกเซ็นทรัลพระราม9, Seiko Boutique online, เคาท์เตอร์นาฬิกาไซโก ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ในวันที่ 15 กันยายน 2565 นี้ Zimbe Recycle Plastic Box ความพิเศษของนาฬิกา Seiko Prospex Zimbe Limited Edition ทั้งสองรุ่นนี้ ถูกผลิตขึ้นจากการนำขยะพลาสติก กลับมาเข้ากระบวนการรีไซเคิลเป็นเม็ดพลาสติก และฉีดขึ้นรูปเป็นกล่อง Zimbe โดยใช้เทคนิคการฉีดพลาสติกที่ทำให้เกิดลวดลายแบบคลื่นทะเลและมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไปไม่เหมือนกันในแต่ละกล่อง รวมถึงวัสดุด้านในทั้งหมดก็เป็นวัสดุรีไซเคิล ด้วยความตั้งใจที่อยากช่วยลดขยะพลาสติกทางทะเลและนำขยะมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยฝากล่องด้านบนมีการปั๊มนูนโลโก้ ‘Zimbe’ ไว้อีกด้วย Seiko Prospex Zimbe Limited Edition No. 16 : SRPJ55K จัดจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทย จำนวนจำกัดเพียง 1,000 เรือน กลไก : 4R35ความถี่ : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (8 ครั้งต่อวินาที)พลังงานสำรอง : 41 ชั่วโมงจำนวนทับทิม : 23 เม็ดรายละเอียดเพิ่มเติมตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีลประกอบกับเคสป้องกันตัวเรือนวัสดุสเตนเลสสตีลกระจกแซฟไฟร์ฝาหลังแบบขันเกลียวเส้นผ่านศูนย์กลาง : 43.2 มิลลิเมตร หนา : 12.6 มิลลิเมตรการกันน้ำลึก : 200 เมตรความทนทานต่อสนามแม่เหล็ก : 4,800 A/mสายซิลิโคนราคา: 26,800 บาทจำนวนการผลิต : 1,000 เรือน SRPJ55K เปิดขายวันที่ 15 กันยายน 2565 เวลา 09.00 น. Seiko Prospex Zimbe Limited Edition No. 17 : SRPJ29Kมาพร้อมสายซิลิโคนสำหรับเลือกสวมใส่ จัดจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทย จำนวนจำกัดเพียง 1,000 เรือน กลไก : 4R35ความถี่ : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (8 ครั้งต่อวินาที)พลังงานสำรอง : 41 ชั่วโมงจำนวนทับทิม : 23 เม็ดรายละเอียดเพิ่มเติมตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีลกระจกแซฟไฟร์พร้อมเลนส์ขยายฝาหลังแบบขันเกลียวเส้นผ่านศูนย์กลาง : 43.8 มิลลิเมตร หนา : 12.8 มิลลิเมตรการกันน้ำลึก : 200 เมตรความทนทานต่อสนามแม่เหล็ก : 4,800 A/mราคา: 29,800 บาทจำนวนการผลิต : 1,000 เรือน SRPJ29K เปิดขายวันที่ 12 ตุลาคม 2565 เวลา 09.00 น.